รางจืด มากกว่าสมุนไพรล้างพิษ

ตามตำราไทย กล่าวไว้ว่า "รางจืดรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาเขียว ถอนพิษไข้ ถอนพิษผิดสำแดงและพิษอื่นๆ ใช้แก้ตัวร้อนในกระหายน้ำ รักษาโรคหอบหีดเรื้อรั้ง และแก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่างๆ ใช้แก้พิษเบื่อเมา เนื่องจากเห็ดพิษ สารหนู หรือแม้ยาเบื่อประเภทยาสั่ง ได้ผลชะงัดนักแล" โดยจะใช้รางจีดเป็นไม้เถา ดอกสีม่วง และต้องเป็นรากที่ปลูกนานเกิน 6 เดือนขึ้นไป แบบสดฝนผสมกับน้ำซาวข้าวให้ผู้ถูกพิษชนิดต่างๆ กิน 4 ช้อนโต๊ะ จะอาเจียนเอาพิษออกมา ทำให้อาการถูกพิษดีขึ้นและหายได้ในที่สุด

ข้อมูลจากกลุ่มหมอพื้นบ้านพบว่า การนำน้ำรางจืดต้มมาอาบจะทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง ส่วนรากนำมาผนกับน้ำซาวข้าวและทาหน้าจะทำให้หน้าขาวไม่มีสิวฝ้า นอกจากนี้ยังไม่สรรพคุณแก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่างๆ เช่น โรคเริม งูสวัด ใช้ถอนพิษปวดแสบปวดร้อนจากไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้

งานวิจัยในห้องปฏิบัติการมีการศึกษาพบว่า รางจืดมีฤทธิ์ต้านและต้านไวรัสโรคเริมได้ดี และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระนำมาป้องกันสมองถูกสารพิษทำลาย และยังใช้ที่ใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ด้วย

จากบทคัดย่อรายงานผู้ป่วยได้รับพิษแมงดาทะเล 4 รายรักษาด้วยสมุนไพรรางจืด: หลังกินยำไข่แมงดาทะเลระยะที่เริ่มแสดงอาการตั้งแต่ 40 นาที ถึง 4 ชั่วโมง ทุกรายมีอาการชารอบปาก คลื่นไส้ อาเจียน ลามไปยังกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ทำให้หายใจไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ผู้ป่วย 2 รายอาการรุนแรงหมดสติ เนื่องจากพิษแมงดาทะเล คือ เทโทรโดทอกซิน ไม่มีสารแก้พิษในรูปยาแผนปัจจุบัน ต้องรักษาตามอาการ โดยพิษจะถูกขับทางปัสสาวะ หลังจากได้น้ำสมุนไพรรางจืด 40 นาที ผู้ป่วยเริ่มรู้สึกและมีอาการดีขึ้น

เพราะสมุนไพรรางจืดมีความสำคัญกับวิถีชีวิตคนไทยมาช้านาน กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายที่จะผลักดันให้มีการปลูก และการใช้ทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้นำมาใช้ขับสารพิษเคมีที่ใช้กำจัดศัตรูพืชและตกค้างอยู่ในเลือดเกษตรกร ซึ่งพบค่าเฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 51

"โดยภาพรวมแล้ว หากบ้านใดมีรางจืดอยู่กับบ้าน เสมือนมีหมอประจำบ้าน สามารถช่วยชีวิตคนยามฉุกเฉินได้ดีที่สุด แทบไม่ต้องพึ่งโรงพยาบาลเลยก็ว่าได้"