2334 จำนวนผู้เข้าชม |
ขาวละออเภสัช ก่อตั้งเมื่อปี ๒๔๗๒ โดยหมอหลงขาวละออ ๒๔๔๐ ๒๕๑๒ แพทย์และเภสัชกรแผนไทย แพทย์ผู้รักษาและผู้ชำนาญการปรุงยาแผนโบราณจากสมุนไพรผลิตภัณฑ์ของขาวลออเภสัชที่มีชื่อเสียงได้แก่ยาถ่ายพยาธิขาวละออ และยากวาดสมานลิ้นขาวละออ ยาถ่ายพยาธิขาวละออนั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นยาถ่ายพยาธิตำรับแรกจากสมุนไพรที่ได้ผลสามารถขับพยาธิออกได้ทั้งหมดในขณะที่ยาถ่ายพยาธิในขณะนั้นไม่สามารถขับพยาธิออกได้ทั้งหมด ยาถ่ายพยาธิขาวละออจึงเป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงมาก ดังจะเห็นได้จากการบันทึกไว้ในหนังสือชีวิตในวังเล่มที่หนึ่งเนื่องนิลรัตน์รวมทั้งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นยาถ่ายพยาธิที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถขับพยาธิได้จริง
สำหรับยากวาดสมานลิ้นขาวละออนั้นเป็นยาอีกตำรับหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับในประสิทธิผลและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มาตั้งแต่เริ่มแรกเช่นกันเป็นยาที่ใช้ในการดูแลสุขอนามัยในช่องปากของเด็กไทยมาถึงปีจากการรักษาหละละอองขุมขาวตั้งแต่เด็กแรกเกิดซึ่งการรักษาสุขอนามัยในช่องปากของเด็กจะทำให้เด็กไม่เจ็บทรมานซึ่งจะทำให้ร้องไห้โยเยตลอดเวลาเป็นที่กังวลใจของพ่อแม่และการที่เด็กเจ็บปากจะทำให้เด็กดูดนมไม่มีแรงหรือไม่ดูดนมทั้งๆที่กำลังหิวส่งผลให้เด็กน้ำหนักน้อยเติบโตลดลงและส่งผลต่อภูมิต้านทานของร่างกายจึงเจ็บป่วยได้ง่ายอีกทั้งแผ่นขุมขาว เมื่อเด็กกลืนลงไปก็จะก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยเป็นไข้ตามมาเป็นปัญหาวนเวียนสร้างภาระการเลี้ยงดูให้แก่พ่อแม่ดังนั้นการกวาดยาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพจะป้องกันอาการเจ็บปากไม่สบายของเด็กตั้งแต่แรกเกิดได้ยากวาดสมานลิ้นขาวละออนี้ยังเป็นที่นิยมของผู้ใหญ่ที่เป็นแผลในปากเช่น จากยากวาดสมานลิ้นขาวละออนี้ได้พัฒนารูปแบบให้เหมาะสมกับยุคสมัยและเทคโนโลยีอยู่ตลอดมาจากแรกเริ่มสูตรตำรับมีรูปแบบเป็นยาแผ่นห่อด้วยแผ่นอลูมิเนียมแล้วบรรจุซองมีเส้นตารางบนแผ่นเพื่อหักแบ่งใช้ตามเหมาะสมโดยนำยามาฝนกับฝาละมีเติมน้ำสุกอุ่นเล็กน้อยพอได้เนื้อยาก็นำมาป้ายหรือกวาดในบริเวณปากที่เป็นแผลยาตำรับนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางแต่รูปแบบการใช้อาจยังไม่สะดวกนั้นเมื่อมีเทคโนโลยีการตอกอัดเม็ดยาขาวละออเภสัช จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นชนิดเม็ดผนึกด้วยอลูมิเนียมฟอล์ยนับว่าเป็นการพัฒนาครั้งที่บรรจุในซองกระดาษเช่นเดิมพร้อมเอกสารกำกับยาแนะนำวิธีใช้จึงนับได้ว่าเป็นการพัฒนาตามยุคสมัยและทำให้ผลิตภัณฑ์มีความสะอาดมากขึ้นปกป้องความชื้นมากขึ้นสะดวกต่อการส่งไปจำหน่ายยังจังหวัดไกลๆทั่วประเทศ
การขนส่งสมัยนั้นใช้การส่งด้วยรถไฟและรถยนต์ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ซึ่งปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว ในราวปี๒๕๑๒ผู้บริหารรุ่นที่สองคือคุณบุญเรือน พงษ์บริบูรณ์ บุตรสาวหมอหลงและนายวราพงษ์ พงษ์บริบูรณ์ บุตรเขย ได้พัฒนาเป็นชนิดผง เนื่องจากแม้ชนิดเม็ดจะมีการพัฒนาขึ้นแต่ผู้ใช้ก็ยังต้องนำไปบดก่อนใช้จึงพัฒนาเป็นชนิดผงและบรรจุผงยาในซองอลูมิเนียมด้วยเครื่องบรรจุอัตโนมัติซึ่งพิมพ์เลขที่การผลิตบนซองขณะบรรจุด้วยอาจนับได้ว่าเป็นการพัฒนารูปแบบครั้งที่ขณะเดียวกันในระหว่างการเดินทางเพื่อขยายตลาดในต่างจังหวัดได้เห็นความยากจนในชนบทเนื่องจากไม่มีอาชีพเสริมนอกฤดูกาลทำนาและเกษตรกรรมอื่นจึงเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งสองท่านจึงเห็นพ้องต้องกันที่จะสอนอาชีพง่ายๆ ใช้เวลาฝึกฝนน้อยและสามารถทำเพื่อเสริมรายได้ได้โดยทันทีให้แก่ชาวบ้านตามชุมชนระหว่างเดินทางภายหลังเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายนได้จัดตั้ง ชมรมส่งเสริมอาชีพวิทยาทาน โดยรวบรวมผู้มีจิตอาสาสอนอาชีพง่ายๆ แก่ประชาชนผู้มาเรียนโดยไม่เก็บค่าสอนแรกเริ่มสอนที่สันนิบาตเสรีชนแห่งประเทศไทย บริเวณตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอีต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นชมรมลุงขาวไขอาชีพและภายหลังจดทะเบียนเป็นมูลนิธิลุงขาวไขอาชีพและนายวราพงษ์ พงษ์บริบูรณ์เป็นที่รู้จักกันในนาม ลุงขาวไขอาชีพ จากภูมิปัญญาสู่การวิจัย ในราวปี๒๕๕๓ เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทยในขณะนั้นและทีมงานสนับสนุนการวิจัยตำรับยาแผนไทย ได้ประสานงานการวิจัยสมุนไพรกับเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาตินายจิรพันธ์ อรรถจินดาและกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณนายพูลทรัพย์ ปิยะอนันต์ เพื่อขอการสนับสนุนให้มีการวิจัยสมุนไพรซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากในขณะนั้นโดยได้คัดเลือกยาแผนโบราณที่เป็นยอมรับในท้องตลาดมาทำการวิจัยซึ่งหนึ่งในนั้นคือยากวาดสมานลิ้นขาวละออชนิดผงและทีมผู้ทำการวิจัยได้แก่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผลการวิจัยพบว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ดีช่วยให้แผลหายเร็วและมีความปลอดภัยสูงอีกทั้งยังมี synergistic effect ของสมุนไพรในตำรับยาที่ออกฤทธิ์เสริมกันให้เกิดผลการรักษาที่ดีแม้ใช้ยาในปริมาณน้อยมากซึ่งนำมาทั้งความยินดีที่ตำรับยานี้ให้ผลดีอย่างนึกไม่ถึงและแปลกใจไปพร้อมๆกันว่าผู้ปรุงตำรับทราบได้อย่างไรว่าตำรับนี้ให้ผลการรักษาที่ดีและปลอดภัยสูง และแต่งตำรับมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะให้แม้ในเด็กเล็กก็ใช้ได้
ดังนั้น ขาวละออเภสัชจึงได้นำผลการวิจัยนี้มาพัฒนาต่อเป็นชนิดเจลเพื่อทารักษาแผลในปากและขึ้นทะเบียนตำรับเลขที่.....โดยได้วิจัยเนื้อเจลที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กผ่านโครงการผู้วิจัยคือ ผศ ภญ เอมอร ชัยประทีป อาจารย์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเนื้อเจลที่ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กเท่านั้นแต่ยังปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับบุคคลทั่วไปด้วยผลิตภัณฑ์ Khaolaor Mouth Gel นี้ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติ (PMHA Award) เดือนมีนาคม ๒๕๖๒ และได้นำไปแสดงในงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ กรุงเจนีวา สหพันธรัฐสวิส (International Exhibition of Invention) ได้รับรางวัลเหรียญทอง เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๒ และ Special Prize on Stage จากspan classMinistry of Science and Higher Education of the Russian Federation อีกด้วย แรงบันดาลใจและเป้าหมายของขาวละออเภสัชคือ ในปัจจุบัน รูปแบบของผลิตภัณฑ์ควรเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย จากผงยาสีดำของยากวาดสมานลิ้นขาวละออ แม้จะได้ผลดีมากแต่อาจไม่เหมาะกับการทาออกนอกบ้านหรือแม้ใช้ในบ้านผู้ใช้ก็อาจรู้สึกเปรอะเปื้อนดังนั้นรูปแบบเจลจึงเป็นรูปแบบที่เหมาะสมแต่ยาทารักษาแผลในปากที่มีจำหน่ายอยู่เป็นยาแผนปัจจุบันที่มีตัวยาสเตียรอยด์เป็นองค์ประกอบหลักซึ่งเป็นยาที่ให้ผลการรักษาที่ดีแต่การใช้ยาที่มีสเตียรอยด์ก็มีข้อจำกัด เช่นไม่ควรใช้ในเด็กหรือสตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้กับแผลที่ติดเชื้อราและการใช้บ่อยๆก็ทำให้การตอบสนองต่อยาช้าลงอีกด้วย ดังนั้นการพัฒนายากวาดสมานลิ้นขาวละออให้เป็นชนิดเจลจึงสามารถใช้ในเด็กเล็กได้ ใช้ในผู้ใหญ่ได้ใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการโดยไม่เปรอะเปื้อนลดการอักเสบของแผลและช่วยให้แผลหายเร็วมีความเหมาะสมทั้งทางด้านกายภาพและประสิทธิผลรวมถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ด้วย และยังเป็นการแสดงถึงการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพของประเทศไทยอีกด้วยและสามารถนับได้ว่าเป็นการพัฒนาครั้งที่ ๔ เป็นการพัฒนาด้วยวิจัยและนวัตกรรมเป็นการพึ่งพาตนเองทั้งตัวยาหลักและเจลส่วนประกอบโดยนักวิจัยไทยซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก เป็นการใช้แต่เพียงน้อยแต่ได้ผลมากเพราะตัวยาเสริมฤทธิ์กันตามวัตถุประสงค์ของยุคตามความปรารถนาในการพัฒนาของราชการอีกด้วย ปัจจุบันขาวละออเภสัชก่อตั้งมาครบปีดำเนินการผลิตด้วยกระบวนการทันสมัยได้รับมาตรฐาน GMP, ISO 9001และได้รับการยอมรับถึงความมีคุณภาพและจริยธรรมจากหน่วยงานวิจัยและหน่วยงานราชการ เช่นรางวัล ควอลิตี้อวอร์ด รางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติรางวัลผู้ประกอบการสมุนไพรดีเด่นระดับชาติ รางวัลเหรียญทางสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา เป็นต้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนามาเป็นอย่างดีนี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของไทยที่มีคุณภาพอื่นๆจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคของไทยมากขึ้นโดยลำดับเพื่อความภูมิใจของชาติและยกระดับความสามารถของการประกอบการและการวิจัยในทุกระดับ